
ทัวร์เวียดนาม
เริ่ม ทัวร์เวียดนาม กันที่เมืองหลวง ฮานอย ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศจ้ะ ฮานอยเป็นเมืองโบราณที่แก่กว่าพันปี ในอดีตกาล เมืองฮานอยได้รับการกล่าวขวัญกันว่าเป็นเมืองหลวงที่งามที่สุดในทวีปเอเชียเชียวนะ จะมองเห็นได้ว่าในเมืองเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์วัวโลเนียลสวยสะกด กับอาคารตึกรามบ้านช่องในสไตล์โบราณคลาสสิกไม่แพ้กันจ้ะ เป็นเมืองหลวงที่มีสไตล์ เดินเที่ยวถ่ายภาพกันแบบชิลล์ๆได้มีไม่เบื่อเลยจ้ะ
1.ฮานอยห้องอาหารชี้แนะในประเทศพม่า
ประเทศพม่า หรือภรรยานมา เป็นอีกหนึ่งจุดหมายของนักแสวงบุญ เพราะว่ามีสถานที่เที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์หลายที่ให้ได้ไปไหว้ขอพร เสริมความเป็นมงคลแก่ชีวิต
2.ฮาทดลองเบย์
ใน เวียดนามเหนือ ที่เที่ยว อีกแห่งที่โด่งดังและก็เป็นที่นิยมสุดๆก็คือที่ ฮาทดลองเบย์ หรือ อ่าวฮาทดลอง ที่เต็มไปด้วยเกาะหินปูนสูงลิ่วตั้งเรียงรายสลับกับเกาะแก่งเล็กๆท่ามกลางน้ำทะเลสีมรกตของอ่าวตังเกี๋ย ซึ่งอ่าวฮาทดลองได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี 1994 จากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ เนื่องจากว่ามีสิ่งอัศจรรย์จากธรรมชาติเกิดมากมายตรงนี้ อีกทั้งเกาะหินปูนปริมาณ 1,969 เกาะ ที่โผล่พ้นขึ้นมาจากผิวสมุทรกระจัดกระจายอยู่ทั่วอ่าว ซึ่งข้างในเกาะก็ดาษดาไปด้วยอุโมงค์ลมที่โดนระลอกคลื่นกัดกร่อนจนถึงเปลี่ยนเป็นความงามอันน่าแปลกใจ ฮาทดลองเบย์ก็เลยล่อใจนักเดินทางให้มาเยี่ยมตรงนี้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเดือนสิ้นเดือนเดือนพฤษภาคมและก็ต้นเดือนส.ค. รวมทั้งม.ค.ถึงเดือนมีนาคมซึ่งเป็นตอนฤดูหนาว จะสามารถแลเห็นทะเลหมอกในช่วงเวลาเช้าได้อย่างแจ่มแจ้งที่สุด บรรยากาศโรแมนติกมากมายๆ
3.เมืองซาขว้าง
การเที่ยวเวียดนาม ฤดูหนาวคงบริบูรณ์ไปมิได้ถ้าหากพวกเราพลาด เวียดนามเหนือ ที่เที่ยว ตรงนี้จ้ะ เมืองซาขว้าง ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,650 เมตร ก็เลยมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี แล้วก็ยังสงบเงียบ เหมาะกับมาท่องเที่ยวพักกับครอบครัว หรือจะมาสวีทหวานแหววกับคุณแฟนก็ได้นะ
4. อุทยานแห่งชาติบาเบ๋
สำหรับคนที่อยาก ท่องเที่ยวเวียดนามเหนือ ในบรรยากาศสงบเงียบ และก็อยากเลี่ยงความโกลาหลจากกลุ่มคน อีกหนึ่งสถานที่ที่ขอเสนอแนะเลยก็คือ อุทยานแห่งชาติบาเบ๋ (Ba Be National Park) สวนที่เปิดเป็นแห่งที่ 8 ของเวียดนามเมื่อปี 1992 กลับไม่ค่อยดังจากนักเดินทางทั่วๆไปสักเท่าไหร่ เว้นเสียแต่นักเดินทางกรุ๊ปเล็กๆที่นิยมสถานที่ที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบ รวมทั้งมีอากาศที่บริสุทธิ์ ซึ่งห้อมล้อมไปด้วยน้ำตก ถ้ำ เทือกเขาหินปูน ทะเลสาบความยาวกว่า 8 กิโล และก็สัตว์ป่านานาจำพวก
5. เกาะกั๊ตบา
กั๊ตบา เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮาทดลองเบย์ โดยมีพื้นที่เกือบจะ 200 ตารางกิโลเมตร ทำให้ตรงนี้เต็มไปด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวกเยอะแยะ แม้เทียบกับเกาะอื่นๆในฮาทดลองเบย์ที่ส่วนมากจะเป็นเกาะเล็กเกาะน้อยที่เกือบจะไม่มีอะไรบนนั้น อย่างไรก็แล้วแต่ เสน่ห์ของการท่องเที่ยวเกาะกั๊ตบากลับอยู่ที่การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และก็วัตนธรรม ซึ่งมีสถานที่เที่ยวสำคัญบนเกาะเป็น ป้อมแคนนอน ที่ทำขึ้นบนยอดดอยซึ่งเยอะที่สุดในเกาะกั๊ตบา เมื่อครั้งเวียดนามถูกประเทศฝรั่งเศสยึดครอง นักเดินทางที่มาเยี่ยมตรงนี้จะได้มองเห็นแนวบังเกอร์โบราณแล้วก็ฐานหยุดเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งห้อมล้อมไปด้วยทิวภาพของเกาะกั๊ตบาที่งดงาม
6. เมืองบัคฮา
ใน เวียดนามเหนือ ที่เที่ยว ธรรมชาติงามๆเว้นแต่ที่เมืองซาขว้างแล้ว ยังมีอีกแห่งที่พลาดมิได้ก็คือ การมาเยี่ยมดินแดนที่ดอกไม้หลากสีที่ เมืองบัคฮา นั่นเองจ้ะ เมืองบัคฮาอยู่ห่างจากเลาไกโดยประมาณ 27 กม. เป็นเมืองเล็กๆที่สงบเงียบ แต่ว่าก็ค่อนข้างจะมีชื่อในกลุ่มนักเดินทางไม่แพ้เมืองใหญ่ๆในเวียดนามเลย โดยเขพาสำหรับคนที่พึงพอใจในเรื่องของชนเผ่าต่างๆที่อาศัยอยู่ในเวียดนามเหนือ ไม่ว่าจะเป็นชาวม้ง ไต เย้า ผู้ลาว จีน เวียดนาม ไลชิ เลอหรอ ปกาเก่อญอ ถู่ลาว อื่นๆอีกมากมาย ที่เต็มไปด้วยสีสันของเครื่องนุ่งห่มที่พวกเขายังคงสงวนวัฒนธรรมของตนได้อย่างดีเยี่ยม จนได้รับฉายาว่า “The Flower Hmong of Sapa”
1.ฮานอยห้องอาหารชี้แนะในประเทศพม่า
ประเทศพม่า หรือภรรยานมา เป็นอีกหนึ่งจุดหมายของนักแสวงบุญ เพราะว่ามีสถานที่เที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์หลายที่ให้ได้ไปไหว้ขอพร เสริมความเป็นมงคลแก่ชีวิต
2.ฮาทดลองเบย์
ใน เวียดนามเหนือ ที่เที่ยว อีกแห่งที่โด่งดังและก็เป็นที่นิยมสุดๆก็คือที่ ฮาทดลองเบย์ หรือ อ่าวฮาทดลอง ที่เต็มไปด้วยเกาะหินปูนสูงลิ่วตั้งเรียงรายสลับกับเกาะแก่งเล็กๆท่ามกลางน้ำทะเลสีมรกตของอ่าวตังเกี๋ย ซึ่งอ่าวฮาทดลองได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติเมื่อปี 1994 จากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ เนื่องจากว่ามีสิ่งอัศจรรย์จากธรรมชาติเกิดมากมายตรงนี้ อีกทั้งเกาะหินปูนปริมาณ 1,969 เกาะ ที่โผล่พ้นขึ้นมาจากผิวสมุทรกระจัดกระจายอยู่ทั่วอ่าว ซึ่งข้างในเกาะก็ดาษดาไปด้วยอุโมงค์ลมที่โดนระลอกคลื่นกัดกร่อนจนถึงเปลี่ยนเป็นความงามอันน่าแปลกใจ ฮาทดลองเบย์ก็เลยล่อใจนักเดินทางให้มาเยี่ยมตรงนี้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเดือนสิ้นเดือนเดือนพฤษภาคมและก็ต้นเดือนส.ค. รวมทั้งม.ค.ถึงเดือนมีนาคมซึ่งเป็นตอนฤดูหนาว จะสามารถแลเห็นทะเลหมอกในช่วงเวลาเช้าได้อย่างแจ่มแจ้งที่สุด บรรยากาศโรแมนติกมากมายๆ
3.เมืองซาขว้าง
การเที่ยวเวียดนาม ฤดูหนาวคงบริบูรณ์ไปมิได้ถ้าหากพวกเราพลาด เวียดนามเหนือ ที่เที่ยว ตรงนี้จ้ะ เมืองซาขว้าง ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,650 เมตร ก็เลยมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี แล้วก็ยังสงบเงียบ เหมาะกับมาท่องเที่ยวพักกับครอบครัว หรือจะมาสวีทหวานแหววกับคุณแฟนก็ได้นะ
4. อุทยานแห่งชาติบาเบ๋
สำหรับคนที่อยาก ท่องเที่ยวเวียดนามเหนือ ในบรรยากาศสงบเงียบ และก็อยากเลี่ยงความโกลาหลจากกลุ่มคน อีกหนึ่งสถานที่ที่ขอเสนอแนะเลยก็คือ อุทยานแห่งชาติบาเบ๋ (Ba Be National Park) สวนที่เปิดเป็นแห่งที่ 8 ของเวียดนามเมื่อปี 1992 กลับไม่ค่อยดังจากนักเดินทางทั่วๆไปสักเท่าไหร่ เว้นเสียแต่นักเดินทางกรุ๊ปเล็กๆที่นิยมสถานที่ที่เต็มไปด้วยความเงียบสงบ รวมทั้งมีอากาศที่บริสุทธิ์ ซึ่งห้อมล้อมไปด้วยน้ำตก ถ้ำ เทือกเขาหินปูน ทะเลสาบความยาวกว่า 8 กิโล และก็สัตว์ป่านานาจำพวก
5. เกาะกั๊ตบา
กั๊ตบา เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฮาทดลองเบย์ โดยมีพื้นที่เกือบจะ 200 ตารางกิโลเมตร ทำให้ตรงนี้เต็มไปด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวกเยอะแยะ แม้เทียบกับเกาะอื่นๆในฮาทดลองเบย์ที่ส่วนมากจะเป็นเกาะเล็กเกาะน้อยที่เกือบจะไม่มีอะไรบนนั้น อย่างไรก็แล้วแต่ เสน่ห์ของการท่องเที่ยวเกาะกั๊ตบากลับอยู่ที่การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และก็วัตนธรรม ซึ่งมีสถานที่เที่ยวสำคัญบนเกาะเป็น ป้อมแคนนอน ที่ทำขึ้นบนยอดดอยซึ่งเยอะที่สุดในเกาะกั๊ตบา เมื่อครั้งเวียดนามถูกประเทศฝรั่งเศสยึดครอง นักเดินทางที่มาเยี่ยมตรงนี้จะได้มองเห็นแนวบังเกอร์โบราณแล้วก็ฐานหยุดเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งห้อมล้อมไปด้วยทิวภาพของเกาะกั๊ตบาที่งดงาม
6. เมืองบัคฮา
ใน เวียดนามเหนือ ที่เที่ยว ธรรมชาติงามๆเว้นแต่ที่เมืองซาขว้างแล้ว ยังมีอีกแห่งที่พลาดมิได้ก็คือ การมาเยี่ยมดินแดนที่ดอกไม้หลากสีที่ เมืองบัคฮา นั่นเองจ้ะ เมืองบัคฮาอยู่ห่างจากเลาไกโดยประมาณ 27 กม. เป็นเมืองเล็กๆที่สงบเงียบ แต่ว่าก็ค่อนข้างจะมีชื่อในกลุ่มนักเดินทางไม่แพ้เมืองใหญ่ๆในเวียดนามเลย โดยเขพาสำหรับคนที่พึงพอใจในเรื่องของชนเผ่าต่างๆที่อาศัยอยู่ในเวียดนามเหนือ ไม่ว่าจะเป็นชาวม้ง ไต เย้า ผู้ลาว จีน เวียดนาม ไลชิ เลอหรอ ปกาเก่อญอ ถู่ลาว อื่นๆอีกมากมาย ที่เต็มไปด้วยสีสันของเครื่องนุ่งห่มที่พวกเขายังคงสงวนวัฒนธรรมของตนได้อย่างดีเยี่ยม จนได้รับฉายาว่า “The Flower Hmong of Sapa”